By lily |

ในปี 2563 เรารู้ว่ามีปัญหาการจัดส่งสินค้าจากประเทศจีนที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19  แต่ในช่วงต่อมาเราไม่เห็นปัญหาเรื่องนี้ 

อัตราค่าขนส่งทางเรือจากเอเชียไปยังยุโรปพุ่งสูงขึ้นสามถึงห้าเท่าในบางกรณีสูงกว่านี้โดยซำ้ในช่วงปลายปี 2563 และไตรมาสแรกของปี 2564 ถึงแม้ว่าเราสามารถซื้อตู้คอนเทนเนอร์ให้เป็นของเราเอง

เห็นได้ว่าตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากสะสมอยู่ในยุโรปโดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร และมีการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์อย่างหน้กในพื้นที่อื่นของโลกส่วนมากอยู่ในเอเชีย

เกิดอะไรขึ้น  มีผู้วิเคราะห์สถานการณ์นี้หลายรายมีคำอธิบายที่แตกต่างกัน แต่มีบางสิ่งที่ชัดเจน ไวรัสโคโรน่าในประเทศจีน (ปัจจุบันดีขึ้นแล้ว) ไวรัสโคโรน่า ในยุโรปและอเมริกา (การระบาดระลอกสองที่รุนแรงขึ้น), Brexit, ไวรัสโคโรน่า ในบราซิล (ทำให้เกิดการขาดแคลนเหล็ก), ข้อผิดพลาดในการตัดสิน, ความล้มเหลวของระบบในสภาวะที่ผิดปกติ 

มีตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 180 ล้านตู้ทั่วโลก ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอ คำอธิบายเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในปัจจุบัน สรุปได้ตามนี้ 

ด้วยความไม่สมดุลอย่างเป็นมานาน (เป็นที่ทราบกันดี) ของสินค้าที่ออกจากจีนไปยุโรปและอเมริกามากกว่าทางกลับกัน เรือขนส่งจีนมักจะขนตู้คอนเทนเนอร์เปล่ากลับไปประเทศจีน

วิกฤตการณ์ไวรัสโคโรนาซึ่งเริ่มในจีนทำให้การผลิตของจีนลดลงส่งผลให้ปริมาณการขนส่งทางเรือไปยุโรปและอเมริกาลดลงไปด้วย ทำให้บริษัทขนส่งตัดสินใจให้เรือจอด ค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มสูงขึ้นทำให้แพงเกินไปที่จะส่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่ากลับไปประเทศจีนโดยเฉพาะเมื่อจีนจะต้องปิดตัวลงเป็นเวลานาน ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากยังอยู่ในยุโรปและอเมริกา เมื่อไวรัสโคโรนาระบาดไปทางตะวันตกทำให้ไม่มีการผลิตและการส่งออก ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์เหล่านั้นยังอยู่ที่นั้น

การฟื้นตัวของประเทศจีนทำให้การต้องการของตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มเป็นจำนานมากสำหรับการส่งสินค้าที่ยังค้างอยู่ การส่งชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เพิ่มเติมไปที่ท่าเรือฝ่างตะวันตก ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากได้ยิ่งสะสมอยู่ที่นั่น การเพิ่มขั้นตอนด้านศุลกากร Brexit คลังสินค้าและไอที ในสหราชอาณาจักร ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์เปล่าและตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้าอยู่ค้างไว้ที่นั่น (ทำให้มีการเกิบค่าระวางเรือเพิ่มเติมจากผู้นำเข้า) ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการพิธีการศุลกากรและคืนตู้คอนเทนเนอร์เปล่าได้ประสบปัญหาความล่าช้าจากการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก ได้มีข่าวว่าการผลิตเหล็กเพื่อผลิตู้คอนเทนเนอร์ใหม่เกิดความล่าช้าในบราซิลเนื้องจากรับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ปัญหาทั้งหมดกลายเป็นเรื่องใหญ่ของโลกเนื่องจากมี่ข่าวว่าหลายบริษัทเดินเรือกำลังแย่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่รอส่งสินค้าจากยุโรป / อเมริกาไปยังเอเชีย มีการส่งคอนเทนเนอร์เปล่ากล้บไปเอเชียเพื่อได้รับผลประโยชน์จากอัตราค่าขนส่งทางทะเลที่สูงขึ้นไปยังยุโรป / อเมริกา

คำถามที่สองคือใครจะได้รับผลประโยชน์จากอัตราค่าขนส่งทางเรือที่สูงขึ้น เห็นได้ชัดว่าเป็น บริษัทเดินเรือที่ก่อให้เกิดวิกฤตตั้งแต่แรก Maersk บริษัทเดินเรือที่มีตู้คอนเทนเนอร์มากที่สุดในโลกได้รายงานผลกำไรรายไตรมาสว่ามีตัวเลขสูงกว่าปีที่แล้วถึง 96% : 2.2 พันล้านดอลลาร์ คู่แข่งเขาก็เช่นกัน Hapag-Lloyd HLAG บริษัทเดินเรือของเยอรมันมีกำไรเพิ่มขึ้น 66 เปอร์เซ็นต์ในปี 2563 บริษัทเดินเรือ One ในญี่ปุ่นรายงานกำไรในช่วงเดือนแรกเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 พันล้าน จาก 131 ล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้ จะดำเนินการต่อไปได้ดีในกลางปี ​​2564

เป็นภาพที่ไม่ค่อยสวยเลย

ในขณะที่บางคนได้เกิบผลประโยชน์ให้กับตัวเอง รัฐบาล ประชาชนทั่วไป ภาคธุรกิจ และ ครอบครัว เสี่ยงต่อการล้มละลาย ต้องจ่ายเงินให้ธุรากิจและพนักงานในช่วงเศรษฐกิจที่ได้ผลกระทบหนักจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ในที่นี้มีขั้นตอนการแก้ปัญหาที่ทำได้ง่าย : ให้ธนาคารพักระบบการชำระหนี้และดอกเบี้ยเป็นเวลาหนึ่งหรือสองปี เลื่อนกำหนดการชำระหนี้ชั่วคราว ห้ามเก็บดอกเบี้ย และห้ามเล่นการพนันอย่างถาวร